0 Comments
ประกัน Bigbike

ประกัน Bigbike รู้ไว้ก่อนเลือก

ประกันภัยนั้นไม่ใช่แค่เครื่องช่วยแบ่งเบาภาระให้กับรถยนต์สี่ล้อเท่านั้น เพราะรถมอเตอร์ไซค์เองก็เป็นยานพาหนะที่ต้องทำประกันภัยให้เช่นเดียวกัน รถมอเตอร์ไซค์เองก็มีอยู่หลากหลายประเภทที่ต้องเลือกประกันภัยให้เหมาะสมต่อความต้องการและการดูแลความปลอดภัยที่น่าพึงพอใจ ยิ่งหากคุณเป็นเจ้าของรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ที่ต้องการความดูแลสูงอย่าง Bigbike แล้ว การทำประกันภัยก็จะช่วยให้คุณสามารถดูแลได้อย่างเต็มที่และแบ่งเบาภาระเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้มากขึ้น ก่อนทำประกัน Bigbike จึงควรรู้ไว้ก่อนว่าประกันภัย Bigbike มีแบบใดบ้าง  ประกันภัย Bigbike ชั้น 1 คือประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองในขอบเขตสูงสุด  ไม่ว่าจะเป็นการชนแบบใดก็ตาม เช่นการเกิดอุบัติเหตุการชนระหว่างรถด้วยกัน ภัยธรรมชาติอย่างไฟไหม้หรือน้ำท่วม ไปจนถึงให้ความคุ้มครองหากเกิดการสูญหาย ซึ่งการคุ้มครองนี้ครอบคลุมตั้งแต่ค่าเสียหายของบุคคลภายนอกและตัวรถ Bigbike อีกทั้งยังช่วยแบ่งเบาภาระเรื่องค่ารักษาพยาบาลด้วย ประกัน Bigbike ชั้น 1 จึงเหมาะกับผู้ที่ใช้งานรถมอเตอร์ไซค์ Bigbike ที่ใช้งานบ่อย เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย แต่จะต้องสามารถรองรับค่าเบี้ยประกันที่ค่อนข้างสูงตามวงเงินที่คุ้มครองด้วย  แต่หากประกันภัยชั้น 1 ยังเกินความต้องการ อาจขยับมาศึกษาประกัน Bigbike ชั้นอื่นๆ ที่ลดหลั่นลงมาอย่างประกันภัยชั้น 3+ ซึ่งประกันภัยชั้น 3+ นั้น จะให้ความคุ้มครองที่กรณีอุบัติเหตุที่มีคู่กรณีเท่านั้น นั่นคือจะไม่ให้ความคุ้มครองในกรณีที่รถลื่นไถลหรือการสูญหายต่างๆ ซึ่งประกันภัยชั้น 3+ จะเหมาะกับผู้ที่ไม่ค่อยเกิดอุบัติเหตุหรือไม่มีความเสี่ยงของรถหายหรือภัยพิบัติ ต้องการประกันภัยเพียงกรณีอุบัติเหตุที่มีคู่กรณีเท่านั้น ก็ตะได้เบี้ยประกันภัยที่ถูกกว่าและคุ้มค่าความต้องการมากกว่า หรือถ้าประกัน Bigbike ทั้งชั้น 1 และชั้น 3+ ยังไม่ตรงความต้องการ อาจพิจารณาเลือกเพียงประกันภัยชั้น 3 แทน ประกันภัยชั้น 3 เป็นประกันที่เบี้ยประกันค่อนข้างต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยได้ใช้รถแต่อยากมีประกันเผื่อไว้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น เพราะประกันชั้น 3 ของ Bigbike นี้จะเน้นความคุ้มครองไปที่คู่กรณีเท่านั้น ให้ความคุ้มครองที่ค่ารักษาและค่าเสียหายของฝ่ายคู่กรณีและไม่ครอบคลุมหากเกิดการสูญหายของรถยนต์หรืออุบัติเหตุอื่นๆ ที่ไม่สามารถระบุคู่กรณีได้  การเลือกประกัน Bigbike จึงต้องรู้ความต้องการและพฤติกรรมการใช้งานก่อนแล้วจึงพิจารณาแผนประกันที่มีความคุ้มครองคุ้มค่ากับเบี้ยประกันที่ต้องการ